1. การเปิดตัวและผลกระทบในยุคนั้น
เกม “Sa・Ga2” ออกวางจำหน่ายหลังจากเกมภาคแรก “Makai Toushi Sa・Ga” (1989) เพียงหนึ่งปี ด้วยแพ็กเกจขนาดใหญ่ที่โดดเด่น ทำให้เกมนี้เป็นที่สะดุดตาบนชั้นวางขายเกม
2. งานประพันธ์เพลงที่เป็นตำนาน
ในภาคแรก เพลงของเกมประพันธ์โดยคุณ โนบุโอะ อุเอมัตสึ (Nobuo Uematsu) แต่ใน “Sa・Ga2” เป็นผลงานเปิดตัวของ เคนอิจิ อิโต (Kenji Ito) โดยมีเพลงที่ยังคงตราตรึงในความทรงจำ เช่น “秘宝を求めて”, “必殺の一撃”, และ “死闘の果てに”
3. เนื้อเรื่องที่น่าติดตามและโลกแฟนตาซีอันลึกซึ้ง
เรื่องราวเริ่มจากการเดินทางของตัวเอกที่ต้องออกตามหาพ่อที่หายสาบสูญ โดยต้องเผชิญหน้ากับความลับของ “สมบัติศักดิ์สิทธิ์” ผ่านโลกที่หลากหลาย หนึ่งในโลกที่น่าจดจำคือโลกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคเอโดะของญี่ปุ่น
4. ตัวละครและการพัฒนาที่ไม่เหมือนใคร
ผู้เล่นสามารถกำหนดเผ่าพันธุ์ของตัวละคร ซึ่งส่งผลต่อสเตตัสและพัฒนาการในการต่อสู้ ตัวละคร “先生(Sensei)” ที่แม้จะมีรูปร่างเป็นมอนสเตอร์ แต่กลับเป็นเพื่อนที่พึ่งพาได้ที่สุดในช่วงแรก
5. ประสบการณ์อันน่าจดจำจากเนื้อเรื่อง
โลกที่หกซึ่งปกครองโดยเทพีวีนัส (Venus) เป็นอีกหนึ่งจุดพีคของเรื่องราว โดยมีฉากสุดคลาสสิกที่ตัวเอกกล่าวกับวีนัสด้วยประโยคที่โด่งดัง “ในตอนนี้ เธอน่าเกลียดที่สุด!”
การกลับมาของตำนานในยุคปัจจุบัน
6. Sa・Ga COLLECTION บนเครื่องเกมใหม่
ในปี 2020 เกม “Sa・Ga2” ถูกนำมารวมกับภาคอื่น ๆ อย่าง “Makai Toushi Sa・Ga” และ “Sa・Ga 3: Jikuu no Hasha” ในชื่อ “Sa・Ga COLLECTION” สำหรับ Nintendo Switch และต่อมาในปี 2021 ได้ขยายลงบน PC และมือถือ
7. การรีเมคสุดประทับใจบน Nintendo DS
เกมนี้ได้รับการรีเมคเต็มรูปแบบในชื่อ “Sa・Ga2: Goddess of Destiny” บนเครื่อง Nintendo DS ในปี 2009 ด้วยระบบการต่อสู้ที่ปรับปรุงใหม่และกราฟิกที่สวยงาม
บทสรุป: ตำนานที่ไม่มีวันจางหาย
แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 34 ปี แต่ “Sa・Ga2” ยังคงเป็นเกมที่ได้รับความรักจากแฟน ๆ ทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่องเข้มข้น ดนตรีอันไพเราะ และตัวละครที่เป็นที่จดจำอย่างไม่มีวันลืม
นี้ก็เป็นอีกบทความที่คนทันเล่นเกม "Sa・Ga2" มาก่อนอาจจะอยากกลับมาเล่นกันอีกครั้งเลยครับผมน่าจะเคยลองตอนภาครีเมคที่ลง Nintendo DS ครับ มีใครเล่นมาตั้งแต่สมัย Game Boy เลยมั๊ยครับแชร์ประสบการณ์กันได้เลยครับ และใครที่ยังคิดถึงก็สามารถหาเล่นได้จาก Sa・Ga COLLECTION Nintendo Switch เลยครับ
Cr. famitsu