## บทนำ
ในยุคที่หนังซูเปอร์ฮีโร่กำลังเริ่มฟื้นฟูหลังจากความสำเร็จของ X-Men (2000) และ Spider-Man (2002) ในปี 2005 20th Century Fox ได้นำเสนอ Fantastic Four ภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่พยายามจะสร้างจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ให้กับตัวเองเพื่อแข่งขันกับ Marvel Comics โดยมีผู้กำกับ Tim Story เป็นผู้นำทีม
มีอะไรที่น่าสนใจในหนังเรื่องนี้? และทำไมมันถึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร? วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ดูกันว่าหนังเรื่องนี้ดีจริงหรือไม่
## ตัวละครที่สร้างจุดเด่นและจุดด้อย
### จุดเด่น: ครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่
สิ่งที่ทำให้ Fantastic Four แตกต่างจากทีมซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ คือพวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การรวมตัวกันของฮีโร่หลายคน ความสัมพันธ์แบบพี่น้องระหว่าง Johnny Storm (Human Torch) และ Sue Storm (Invisible Woman) ที่มีรูปแบบการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติ
Ben Grimm (The Thing) ที่มีบทพูดดีและมีมิติ สามารถตอบโต้ได้ดี โดยเฉพาะการมีอารมณ์ขันเบาๆ ที่ทำให้หนังไม่ดูจริงจังมากเกินไป
### จุดด้อย: ตัวละครหลักขาดเสน่ห์
ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ Reed Richards (Mr. Fantastic) ที่มีบทบาทเป็นผู้นำแต่กลับไม่มีเสน่ห์ ไม่มีความน่าสนใจ อาจเป็นเพราะการแสดงที่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาและบทที่เขียนมาค่อนข้างจืดชืด
## เอฟเฟกต์พิเศษ
### ประเด็นเรื่องเทคโนโลยี
ในปี 2005 เทคโนโลยี CGI ยังไม่ได้พัฒนาไปสูงมากนัก แต่ฝ่ายเอฟเฟกต์ต้องสร้างเอฟเฟกต์ที่ท้าทายเพื่อแสดงให้เห็นพลังพิเศษของแต่ละตัวละครได้
Human Torch ที่บินได้และจุดไฟได้ดูได้มากที่สุด ส่วน Mr. Fantastic ที่ยืดได้ก็ดูโอเคบางซีน แต่บางซีนก็ดูผิดธรรมชาติ โดยเฉพาะการยืดหน้าหรือร่างกายที่ดูแปลกๆ
### ปัญหาของ The Thing
The Thing เป็นตัวละครที่มีปัญหาเรื่องเอฟเฟกต์มากที่สุด ชุดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Michael Chiklis ดูเหมือนพลาสติกเกินไป ไม่ค่อยมีความเป็นจริงในบางมุมมอง
## ตัวร้ายที่ขาดมิติ
Doctor Doom เป็นหนึ่งในตัวร้ายยอดนิยมของ Marvel Comics ที่มีเลือดยิ่งด้วยศักดิ์ศรี แต่ในหนังเรื่องนี้กลับถูกเปลี่ยนให้เป็นเศรษฐีที่ไม่มีเสน่ห์เท่าไหร่
Victor Von Doom ในฉบับนี้เป็นเพียงนักธุรกิจที่อิจฉา Reed Richards มากกว่าที่จะเป็นผู้ปกครองที่มีฟิลิปไลฟ์ที่ซับซ้อน
### ผลการรับเงินที่ดี
ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาหลายอย่างแต่ Fantastic Four ก็ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้
หนังทำรายได้ทั่วโลก $332 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีสำหรับงบประมาณ $100 ล้าน
แต่ด้วยความคิดเห็นเชิงลบจากนักวิจารณ์และผู้ชม ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นที่น่าจดจำมากเท่าที่ควร
### ผลพวงที่ตามมา
ทำให้เกิดภาคต่อในปี 2007 ที่ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร และการรีบูตในปี 2015 ที่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน
## อนาคตที่น่าจับตา
ปัจจุบันนี้เมื่อ Disney ได้สิทธิ์ Fantastic Four กลับมาแล้ว ซูเปอร์ฮีโร่ในยุคใหม่ของ MCU ก็น่าจะสามารถสร้างผลงานที่ดีกว่าเดิมได้
Fantastic Four ถูกเรียกว่า "First Family" ของ Marvel เพราะเป็นทีมแรกที่ได้รับการสร้างโดย Stan Lee และ Jack Kirby ในปี 1961 ซึ่งได้เป็นพื้นฐานการก่อตั้งจักรวาล Marvel ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้
## บทสรุป
Fantastic Four (2005) เป็นหนังที่มีแนวคิดดีและพยายามนำเสนอซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นเหมือนครอบครัว แต่ประสบปัญหาในการดำเนินเรื่อง การพัฒนาตัวละคร และเอฟเฟกต์พิเศษที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาหลายอย่างที่อาจทำให้หนังไม่ค่อยติดตาคนดูมากเท่าที่ควร
แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่สำคัญ และเราต้องรอการกลับมาของ Fantastic Four ใน MCU ซึ่งอาจจะเป็นเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิมในอนาคต
#FantasticFour #Marvel #SuperheroMovie #MovieReview #หนังซูเปอร์ฮีโร่ #วิเคราะห์หนง #MCU #MarvelComics #MrFantastic #InvisibleWoman #HumanTorch #TheThingฟ #DoctorDoom #ChrisEvans #JessicaAlba #IoanGruffudd #MichaelChiklis