วันนี้มีอะไร : Barbarian (2022) สปอย : หนังสยองขวัญที่หักมุมจนคุณอึ้ง พร้อมความหมายแฝงที่ลึกซึ้ง

 


เจาะลึก Barbarian หนังสยองขวัญแห่งปี 2022 ที่มากกว่าความน่ากลัว วิเคราะห์การหักมุม ตัวละคร และการวิจารณ์สังคมที่แฝงอยู่ พร้อมเกร็ดน่ารู้ที่คุณอาจไม่เคยรู้

ถ้าคุณกำลังมองหาหนังสยองขวัญที่ไม่ธรรมดา ที่จะทำให้คุณนั่งอึ้งและคิดต่อหลังดูจบ Barbarian (2022) คือคำตอบที่คุณต้องการ หนังที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวง่ายๆ เกี่ยวกับบ้านพัก Airbnb กลับกลายเป็นประสบการณ์สุดระทึกที่หักมุมจนคุณคาดไม่ถึง


เรื่องย่อแบบไม่สปอยล์


Tess Marshall (Georgina Campbell) นักวิจัยสาวเดินทางมาถึง Detroit เพื่อสัมภาษณ์งาน เธอจองบ้านพักผ่าน Airbnb แต่พอมาถึงกลับพบว่ามีชายแปลกหน้าชื่อ Keith (Bill Skarsgård) อยู่ในบ้านแล้ว เนื่องจากเกิดการจองซ้ำซ้อน

ท่ามกลางฝนตกหนักและไม่มีที่พักอื่น ทั้งคู่ตัดสินใจพักร่วมกันชั่วคราว แต่แล้ว Tess ก็ค้นพบความลับอันน่าสะพรึงกลัวในห้องใต้ดิน ที่จะพาเธอและผู้ชมไปสู่ฝันร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด


4 เหตุผลที่ Barbarian คือหนังสยองที่เพื่อน ๆ ต้องดู


1. การเล่าเรื่องที่แหวกแนว

Barbarian ไม่เดินตามสูตรหนังสยองทั่วไป มันกล้าที่จะเปลี่ยน perspective กลางเรื่อง กล้าที่จะทำให้คุณสับสน และกล้าที่จะพาคุณไปในทิศทางที่คุณไม่มีทางเดาได้

2. การ Casting ที่ชาญฉลาด

การเลือก Bill Skarsgård (Pennywise จาก IT) มาเล่นเป็นการตั้งใจเล่นกับความคาดหวังของผู้ชม ทำให้เราตั้งการ์ดกับตัวละครนี้ตั้งแต่แรก ซึ่งกลายเป็นกลเม็ดสำคัญของการหักมุม

3. ความหมายที่ลึกซึ้ง

ไม่ใช่แค่หนังสยองธรรมดา แต่แฝงการวิจารณ์สังคมเรื่อง toxic masculinity, rape culture และ trauma ที่ถ่ายทอดข้ามรุ่น

4. การสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม

ตั้งแต่บ้านร้างใน Detroit ไปจนถึงอุโมงค์อันมืดมิด ทุกฉากถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความอึดอัดและความกลัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


⚠️ คำเตือน: ส่วนต่อไปนี้มีการสปอยล์เนื้อหา

การหักมุมที่ไม่มีใครคาดคิด


หักมุมครั้งที่ 1: Keith ไม่ใช่คนร้าย

ทุกคนที่เห็น Bill Skarsgård คงคิดว่า "นี่แหละตัวร้าย" แต่ความจริงคือ Keith เป็นคนดีที่พยายามช่วย Tess และเขาตายไปตั้งแต่ต้นเรื่อง!

หักมุมครั้งที่ 2: ตัดไปที่ AJ กลางเรื่อง

40 นาทีผ่านไป หนังตัดไปที่ AJ (Justin Long) ในแคลิฟอร์เนีย ทำให้ผู้ชมงง แต่กลับเป็นการเปิดมุมมองใหม่ของเรื่องราว

หักมุมครั้งที่ 3: The Mother

สิ่งมีชีวิตประหลาดในอุโมงค์ที่ดูน่ากลัว แท้จริงแล้วคือเหยื่อที่น่าสงสารที่สุดของเรื่อง

หักมุมครั้งที่ 4: Frank และความจริงอันดำมืด

การเปิดเผยว่า Frank คือต้นเหตุของทุกอย่าง และ The Mother เกิดจาก incest หลายชั่วอายุคน


ตัวละครและความหมายแฝง


Tess - เสียงของผู้หญิงในสังคม

Tess เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา สัญชาตญาณของเธอถูกต้องเสมอ แต่กลับถูกบังคับให้เข้าสู่สถานการณ์อันตราย

Keith - Prejudice และการตัดสิน

Keith แสดงให้เห็นว่าเราตัดสินคนจากภาพลักษณ์ภายนอกได้ผิดพลาดแค่ไหน

AJ - Toxic Masculinity ยุคใหม่

AJ คือตัวอย่างของผู้ชายที่ไม่เข้าใจ consent และพร้อมจะเอาตัวรอดโดยไม่สนใจผู้อื่น โดยเฉพาะผู้หญิง

The Mother - เหยื่อของระบบ

The Mother คือผลพวงของความรุนแรงทางเพศที่สืบทอดมาหลายชั่วคน เธอไม่ใช่อสูรร้าย แต่เป็นเหยื่อ

Frank - ความชั่วร้ายที่แท้จริง

Frank คือ predator ตัวจริง ที่สร้างวงจรความรุนแรงที่ยังคงดำเนินต่อไปแม้เขาจะตายแล้ว


บ้าน: ตัวละครที่ถูกลืม


บ้านที่ 476 Barbary Street ไม่ใช่แค่ฉาก แต่เป็นตัวละครสำคัญ:

  • ชั้นบน: ภาพลวงของความปกติ
  • ห้องใต้ดิน: ความลับที่ถูกซ่อน
  • อุโมงค์: ความมืดมิดของจิตใจมนุษย์
  • ห้องของ Frank: นรกบนดิน

การที่บ้านตั้งอยู่ใน Brightmoor, Detroit - ย่านที่ถูกทิ้งร้าง สะท้อนถึงการที่สังคมทิ้งเหยื่อให้รับมือกับ trauma เอง


การวิจารณ์สังคมที่ซ่อนอยู่


#MeToo และ Rape Culture

หนังออกมาในยุค post-#MeToo และพูดถึง rape culture อย่างตรงไปตรงมา ผ่านตัวละครอย่าง AJ ที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิด

Toxic Masculinity ในหลายรูปแบบ

  • Frank: ความรุนแรงแบบโจ่งแจ้ง
  • AJ: ความรุนแรงที่แอบอ้างความยินยอม
  • ระบบที่ปกป้องผู้กระทำผิด

Generational Trauma

The Mother แสดงให้เห็นว่า trauma สามารถส่งต่อข้ามรุ่นได้อย่างไร


เกร็ดความรู้น่าสนใจ


1. แรงบันดาลใจจากหนังสือ

Zach Cregger เขียนบทหลังอ่าน "The Gift of Fear" ที่สอนให้ผู้หญิงเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง

2. Bill Skarsgård แทบไม่ได้บท

ผู้กำกับกังวลว่าคนจะนึกถึง Pennywise แต่สุดท้ายนั่นกลับเป็นข้อดี

3. Practical Effects

The Mother ใช้ makeup และ prosthetics จริง ไม่ใช่ CGI หนักกว่า 30 ปอนด์

4. ถ่ายทำใน Bulgaria

แม้เรื่องจะเกิดใน Detroit แต่ถ่ายจริงใน Bulgaria และใช้ CGI เพิ่มบ้านร้าง

5. ความสำเร็จทางการเงิน

ทำรายได้ 45 ล้านดอลลาร์จากงบ 4.5 ล้าน 

6. ชื่อเรื่องมีความหมาย

"Barbarian" มาจากชื่อถนน Barbary แต่ก็หมายถึงความป่าเถื่อนของมนุษย์

7. ฉากที่ถูกตัด

มีฉาก Frank ในวัยหนุ่มลักพาตัวเหยื่อคนแรก แต่ถูกตัดออก


สรุป: ทำไม Barbarian ถึงเป็นหนังสยองที่ควรดู


Barbarian ไม่ใช่แค่หนังสยองขวัญที่ทำมาเพื่อให้กลัว แต่เป็นงานศิลปะที่มีความหมาย ที่กล้าพูดถึงประเด็นสังคมที่ละเอียดอ่อน ผ่านเลนส์ของความสยองขวัญ

มันท้าทายความคาดหวังของผู้ชม ตั้งคำถามเรื่องการตัดสินคนจากภาพลักษณ์ ชี้ให้เห็นปัญหาของ toxic masculinity และแสดงให้เห็นว่า monster ที่แท้จริงคือมนุษย์ธรรมดาที่อยู่ข้างๆ เรา

ถ้าคุณเป็นแฟนหนังสยองที่มองหามากกว่า jump scare หรือแค่อยากดูหนังที่จะทำให้คุณคิดและพูดคุยต่อหลังจบ Barbarian คือหนังที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาด

วันนี้ก็เปรียบเหมือนวันครบรอบการฉายของเรื่องนี้ครับคือวันที่ 09.ก.ย.2022 ครับ


ถ้าชอบคอนเท้นหรือเรื่องราวแบบนี้สนับสนุน Blog หรือ Page เล็ก ๆ หรือค่ากาแฟให้ได้นะครับ 💗💗


ใหม่กว่า เก่ากว่า